Resist Chapter 13 [Minwon Fiction]

Resist Chapter 13

“พี่ซึงซอล...ผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน” มินกยูพ่นลมหายใจออกมาก่อนพูดขึ้น
“มีเรื่องอะไรหรอมินกยู”
“เข้าไปคุยกันข้างในดีกว่านะ”
“อ๋อ อื้อ เข้ามาก่อนสิ” ว่าพลางเปิดประตูกว้างก่อนหลีกทางให้อีกคนเดินเข้ามา
“พี่...” พูดได้เพียงเท่านี้ก็ถูกอีกคนห้ามไว้เสียก่อน
“แปบนะ” ซึงซอลกดโทรศัพท์เพื่อหาว่าใครคือคนที่เขาส่งรูปไปให้ พอได้คำตอบแล้วถึงกับหน้า
ถอดสี ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองอีกคน
“มาเพราะเรื่องนี้สินะ”
มินกยูพยักหน้าแทนคำตอบ
“โอยยยย ทำไงดี” ซึงซอลนึกพลางทรุดตัวลงนั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ปลายเตียง
“พี่รู้จักกับพี่วอนอู” มินกยูเริ่มถาม
ซึงซอลพยักหน้าแทนคำตอบ
“สนิทกันแค่ไหน” มินกยูยังคงถามด้วยน้ำเสียงเรียบ
“ก็...ก็แบบ...” ซึงซอลพูดตะกุกตะกัก
“พี่เป็นอะไรกัน” มินกยูถามด้วยสีหน้าที่ดูจริงจังขึ้นมา
“เฮ้ยย ไม่ใช่แบบที่นายคิดแน่นอน เราเป็นเพื่อนกัน”
“สนิทกันแค่ไหน” มินกยูถามซ้ำ
“ก็รู้จักกันมานานแล้ว ตั้งแต่เด็กๆแต่เป็นแค่เพื่อนกันจริงๆนะ”
“แล้ว...”
“แต่!! เรื่องรูปนี้ไม่รู้นะ มีคนส่งมาให้อีกทีนายไปถามกันเอาเอง”
มินกยูไม่พูดอะไรเพียงแต่กดโทรศัพท์ดูภาพถ่ายนั้นอีกครั้ง
“พี่วอนอูไปกับใครนะ” เขานึกพลางถอนหายใจแต่ก็สลัดความคิดออกไปแล้วกลับมาคุยกับคนตรงหน้า
ต่อ
“แล้วทำไมพี่ต้องโกหกว่าไม่รู้จักพี่วอนอู”
“ก็เพราะว่า...เรื่องพี่รหัส” ซึงซอลนิ่งเงียบไปพักใหญ่ก่อนตอบ
“หมายความว่าไง...”
“วอนอูคือพี่รหัสของนาย”
“พี่รหัส!”
“ใช่~~จริงๆก็ตั้งใจจะบอกว่ารู้จักกันหลังจากที่นายรู้ว่าวอนอูเป็นพี่รหัส แต่นายก็ดันไม่รู้สักที”
พี่รหัสงั้นหรอเขาเองก็ลืมเรื่องนี้ไปเลยตั้งแต่ที่เจอกับวอนอูก็ไม่ค่อยจะสนใจเรื่องอื่นๆเท่าไร แต่กลาย
เป็นว่าเขากำลังคบกับพี่รหัสของตัวเองงั้นหรอ
“แล้วนายล่ะ เป็นอะไรกับวอนอู” ซึงซอลแสร้งถามทั้งๆที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
“แฟน” เขาตอบเสียงเรียบ
“หวงสินะ มาถึงนี่”
“ก็แฟนนี่ครับ”
“รู้แล้วๆ แต่นายอย่ากังวลไปเลยระหว่างพี่กับวอนอูน่ะ”
“ตอนนี้ผมจะยอมเชื่อพี่ก็ได้ แต่ว่าผมจะคอยจับตาดูพี่ไว้ตั้งแต่นี้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าวอนอูรู้ว่านายหวงขนาดนี้คงดีใจน่าดู”
มินกยูไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยิ้มเขินให้เท่านั้น
“คืนนี้นายก็นอนห้องนี้ซะเลยสิ”
“อะไรนะครับ”
“ทำไมอ่ะ ไม่อยากนอนห้องเดียวกันหรอ”
“เปล่าครับ แต่...”
“ไม่ต้องห่วง ส่งข้อความไปบอกเรียบร้อยแล้ว” พูดพลางชูโทรศัพท์ให้ดูข้อความที่พิมพ์ไปยังเพื่อน
ร่วมห้องว่าให้แลกห้องกับมินกยู
“งั้น...ก็ได้ครับ ผมไปเอาของที่ห้องก่อนนะครับ”
“เอาของเจ้านี่ไปด้วยสิ” ว่าพลางชี้ไปที่กระเป๋าของเพื่อนร่วมห้อง
ซึงซอลที่จู่ๆก็นึกเรื่องสนุกๆขึ้นมาได้ หัวเราะคิกคักทันทีที่อีกคนออกจากห้องไป ก่อนหันมาส่ง
ข้อความหาเจ้าเพื่อนตัวดี
“อยู่ไหน กลับห้องยัง”
“ยัง”
“แฟนไม่อยู่เตร็ดเตร่นะ”
“-*-อะไรเล่า”
“จะมืดแล้ว รีบกลับห้องได้แล้ว”
“รู้แล้วๆ กำลังกลับ”
“เดี๋ยวมีเซอร์ไพร์ส”
“อะไร”
“รอดูละกัน”

ส่งข้อความไปยียวนอีกคนเสร็จก้เป็นเวลาเดียวกันกับที่มินกยูกลับมาพอดี

“มินกยู ไปออนเซ็นกัน” ซึงซอลพูดทันทีที่มินกยูกลับมาที่ห้อง
“ห้ะ ทำไมจู่ๆถึง..”
“ไปเถอะน่า มาญี่ปุ่นทั้งทีก็ต้องแช่ออนเซ็นสิ” พูดพลางกอดคออีกคน
“เอ่อครับๆไปครับ”
ไม่นานหลังจากนั้น วอนอูที่กลับมาถึงห้อง จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ยินเสียงเตือน
ข้อความในโทรศัพท์ เขาหยิบมันขึ้นมาเปิดดูก็พบกับภาพแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าของใครคนหนึ่ง
“?” เค้าพิมพ์กลับไป รอคำตอบจากเจ้าเพื่อนสนิทอยู่พักใหญ่เสียงเตือนข้อความก็ดังขึ้นอีกรอบ
คราวนี้ไม่ได้มาเป็นข้อความหรือภาพถ่ายแต่กลายเป็นคลิปสั้นๆ

ภาพเคลื่อนไหวจากด้านหลังของชายร่างสูงที่กำลังถอดเสื้อ เผยให้เห็นแผ่นหลังเปลือย จากนั้นภาพก็
ค่อยๆเลื่อนลงมาต่ำจนถึงเอว มือของเขากำลังปลดกางเกงที่เขาใส่อยู่ออก ก่อนจะได้ยินเสียงพูดดัง
เข้ามาในคลิป แม้จะได้ยินไม่ค่อยชัดแต่เขาก็มั่นใจว่าเขาได้ยินเสียงของ‘มินกยู’
“นี่!!!”
ซึงซอลไม่ตอบอะไรแต่ส่งรูปคู่ของเขากับมินกยูไปให้แทน

วอนอูกำมือแน่น นึกอยากจะทุบไอ้เพื่อนตัวดีเสียจัง โทษฐานที่ยั่วโมโหกันอยู่ได้
“ไว้กลับมาก่อนเถอะ”

หลังจากที่ยั่วโมโหอีกคนได้สำเร็จ ซึงซอลก็หัวเราะคิกคักอารมณ์ดีอย่างกับเด็กขี้แกล้ง

“อ๊ากกก ร้อนจัง” ซึงซอลโวยวายหลังจากที่ยื่นเท้าไปแตะน้ำ
“ลงมาเถอะครับ พอลงมาแล้วก็ไม่ร้อนเท่าไรหรอกครับ สบายตัวจัง” มินกยูที่ลงไปก่อนหน้ากวักมือ
ชวนให้อีกคนรีบลงมา แต่ว่าจะตัดสินใจลงไปซึงซอลก็ใช้เวลาทำใจอยู่พักใหญ่เลย
“โอ๊ะ สบายตัวจัง” ซึงซอลที่จัดท่านั่งให้ตัวเองอยู่ในท่าที่สบายเสร็จแล้วพูดขึ้น
“พี่อย่าบอกพี่วอนอูนะว่าผมรู้เรื่องนั้น”
“เรื่องนั้น” ซึงซอลทวนคำ
“เรื่องรูปนั้นน่ะครับ”
“อ๋อ ได้สิ”

“แล้วก็...นายห้ามบอกวอนอูนะว่านายรู้แล้วว่าวอนอูเป็นพี่รหัส”
“ทำไมล่ะครับ”
“วอนอูก็รู้น่ะสิว่าฉันบอกนาย”
“ผมก็ไม่บอกสิว่ารู้มาจากพี่”
“นายคิดว่าวอนอูจะโง่หรือ”
“ก็ได้ครับ ผมจะไม่บอก”
“ขอบใจนะ”
“แต่...”
“เฮ้ย...แต่อะไร ทำไมมีแต่”
“แล้วผมจะได้อะไร ถ้าผมไม่บอก”
“ร้ายอ่ะ...เดี๋ยวให้นายเป็นสมาชิกที่ร้านคุปส์บาร์ฟรีปีนึงเลย”
“พี่ก็รู้ว่าผมไม่ดื่ม แล้วก็ไม่ชอบไปที่แบบนั้น”
“แต่วันนั้นนายก็ไปนี่”
“ก็พี่ชวนผม”
“เออก็จริง ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ผมขอแค่ตารางเรียนของพี่วอนอูก็พอ”
“ตารางเรียนของวอนอูงั้นหรอ อื้ม ได้สิ” เขารับปากกับสิ่งที่อีกคนขอ แต่ความจริงแล้วตัวเองก็ยังไม่
เคยรู้ตารางเรียนของเพื่อนคนนี้เลย จะได้เจอกันในคลาสก็เฉพาะวิชาที่ลงเรียนเหมือนกัน ส่วนนอกนั้น
ก็ต้องทักแชทไปให้มาเจอกัน แต่คงไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะหามาให้ได้
ทั้งสองใช้เวลาในการแช่ออนเซ็นพูดคุยเรื่องต่างๆกันอยู่พักใหญ่ก่อนที่จะพากันกลับมาพักผ่อนที่ห้อง
เพราะนี่ก็เป็นเวลาค่ำแล้ว แต่ก่อนนอนซึงซอลก็ยังไม่วายที่จะแกล้งเพื่อนด้วยการส่งรูปของมินกยูที่
กำลังหลับสนิทอยู่บนเตียงข้างๆให้อีกคนอิจฉาเล่น

การแข่งขันของทั้งสองทีมจบลง และได้รับชัยชนะมาตามความคาดหมาย แต่พวกเขาไม่มีเวลาสำหรับ
การเลี้ยงฉลองเพราะต้องบินกลับตอนเย็นวันนั้นเลย

“กำลังจะขึ้นเครื่องกลับแล้วนะ” ซึงซอลไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปบอกเพื่อนสนิท
“อืม” เขาพิมพ์ตอบสั้นๆก่อนเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง
“บอกไปแบบนี้หวังว่านายจะเข้าใจนะ” ซึงซอลพึมพำเบาๆก่อนเดินตามคนอื่นไป

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมามินกยูที่ยกกระเป๋าจากสายพานมาแจกจ่ายให้พี่ๆและเพื่อนๆร่วมทีมเรียบร้อยแล้วก็
เหลือบมองนาฬิกาบนผนัง ที่บอกเวลา 19.19 น. แล้วนึกเป็นห่วงว่าอีกคนจะกลับห้องหรือยัง

เขาตัดสินใจส่งข้อความหาอีกคนทันทีที่อยู่บนรถบัสของมหาวิทยาลัยที่จอดรอรับอยู่ที่หน้าสนามบิน
“พี่กลับถึงห้องหรือยังครับ”
“ยังอ่ะ” วอนอูตอบกลับมาแทบจะทันที
“พี่อยู่ไหน”
นี่มันก็ดึกแล้วทำไมถึงยังไม่ยอมกลับห้องอีกนะ ออกไปไหนมากับคนในรูปอีกหรือเปล่า ความคิดต่างๆ
เข้ามาในหัวของมินกยูทำให้เขาแทบจะนั่งไปติดเก้าอี้ อยากจะหายตัวไปหาเดี๋ยวนี้เลย
“ห้องสมุดน่ะ” วอนอูพิมพ์ข้อความตอบกลับมา หลังจากที่เปิดอ่านไปสักพักใหญ่ๆ

แม้จะมีคำถามเกิดขึ้นมากมายในหัวแต่มินกยูก็เลือกที่จะพิมพ์ตอบไปสั้นๆว่า “เดี๋ยวผมไปหา” แทน

วอนอูตาโตทันทีที่เปิดอ่านข้อความ เพราะว่าตอนนี้ตัวเองไม่ได้อยู่ห้องสมุดอย่างที่บอกอีกคนไป และ
กำลังคิดว่าจะห้ามอีกคนไม่ให้มาได้ยังไงก่อนพิมพ์ตอบไป
“ไม่ต้องมาหรอกกำลังจะกลับแล้ว เจอกันที่ห้องนะ” พิมพ์ไปด้วยความตั้งใจว่าจะจบบทสทนาแต่
เพียงเท่านี้ แต่...
“งั้นก็ดีเลย เดี๋ยวผมไปรับ ผมใกล้จะถึงมหาวิทยาลัยแล้ว”

วอนอูเริ่มลุกลนเขาจะทำยังไงดี ถ้าอีกคนไปแล้วไม่เจอเขาที่นั่นเดี๋ยวต้องมีปัญหาแน่ๆ
“ต้องกลับแล้วล่ะ” เขาบอกอีกคนก่อนคว้ากระเป๋าข้างตัวแล้วรีบออกมาจากคาเฟ่ โดยมีอีกคนรีบตาม
ออกมา
“ทำไมรีบ”
“เอ่อ...ลืมไปว่าต้องเอาหนังสือไปคืนที่ห้องสมุดน่ะ กำลังจะปิดแล้วด้วย”
“ตอนนี้เลยหรอ”
“อื้อ วันนี้วันสุดท้ายแล้ว ไม่อยากโดนปรับเงิน” วอนอูกึ่งวิ่งกึ่งเดินไปยังสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด
โดยมีอีกคนตามมาไม่ห่าง


พอออกจากสถานีที่เป็นจุดหมายปลายทางได้ก็รีบสาวเท้ายาวๆตรงไปยังมหาวิทยาลัยทันที
“หอนายไปทางนั้นใช่ไหม” พูดกับอีกคนเมื่อเดินทางถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัย
อีกคนพยักหน้าแทนรับตอบ
“งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะ” เขารอคำตอบรับจากอีกคนอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่อีกคนจะพยักหน้าแล้วส่งยิ้มให้
พลางโบกมือลา แล้วจึงรีบวิ่งตรงไปยังห้องสมุด


เขาหยุดยืนหอบหายใจทันทีที่ผ่านประตูเข้ามา ก่อนพยายามควบคุมลมหายใจให้เป็นปกติ จัดทรงผม
ให้เข้าที่แล้วมองไปรอบๆ
“มินกยูอยู่ไหนนะ” เขานึกพลางหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกง แล้วพบว่ามี 5 สาย  ที่ไม่
ได้รับจากมินกยู จึงรีบพิมพ์ข้อความไปหา
“นายอยู่ไหน”
รอคำตอบอยู่สักพักก็ยังไม่มีข้อความตอบกลับมาจึงคิดเอาเองว่าอีกคนคงยังมาไม่ถึงแล้วตัดสินใจเดิน
ไปหาโต๊ะนั่งอ่านหนังสือ เผื่อว่าอีกคนมาเห็นจะได้ดูแนบเนียนหน่อย ลงนั่งยังไม่ทันไรก็ได้ยินเสียง
เรียกชื่อตัวเองดังมาจากด้านหลัง แม้จะฟังออกว่าเป็นเสียงของใครแต่น้ำเสียงให้ความรู้สึกแปลกๆจน
ขนลุก


ยังไม่ทันจะได้หันไปหาต้นเสียง อีกคนก็เดินมาถึงตัวแล้วหยุดอยู่ที่หลังพนักพิงของเก้าอี้
“จะกลับหรือยังครับ” เขาถามเสียงเรียบ
“อื้อไปสิ” วอนอูว่าพลางปิดหนังสือเล่มที่วางอยู่ตรงหน้า ก่อนเดินเอาไปเก็บที่ชั้นวาง โดยมีอีกคน
เดินตามมาห่างๆ พอเก็บหนังสือเข้าที่แล้วหันมาก็ชนเข้ากับแผงอกของอีกคน
“ร้อนหรอครับ”
“หืมม” เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“พี่เหงื่อออก” พูดพลางถอยห่างออกจากอีกคน
“อ๋อ...อื้มตรงที่นั่งเมื่อกี้แอร์ไม่ค่อยเย็นเลยอ่ะ สงสัยแอร์จะเสียมั้ง”
“งั้นหรอครับ” พูดจบก็เดินนำไปที่ประตูทางออกห้องสมุด
วอนอูเดินตามมาห่างๆด้วยท่าทีอิดออด
“ทำไมครับ กลัวใครจะเห็นว่าเดินกับผมงั้นหรอ”
“ปะ...เปล่า” ตอบตะกุกตะกัก ไม่สบตาอีกคน
มินกยูวางกระเป๋าถือใบใหญ่ลงบนพื้นก่อนนั่งยองลงไปค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า
“อ่ะ ใส่นี่ไว้” เขาพูดพลางยื่นเสื้อคลุมแขนยาวให้อีกคน
วอนอูรับไปใส่อย่างว่าง่าย ก่อนที่มินกยูจะดึงหมวกของเสื้อมาคลุมให้
“แบบนี้โอเคหรือยังครับ”
ใจจริงวอนอูก็ไม่ค่อยจะโอเค กับการที่ต้องเดินข้างๆมินกยูสักเท่าไร ถึงแม้ว่าเวลานี้จะไม่ค่อยมีคนก็
เถอะ แต่เวลานี้คงไม่เหมาะที่จะต่อรองอะไร


ไม่มีบทสนทนาระหว่างทางจากห้องสมุดไปยังประตูหน้ามหาวิทยาลัย ทั้งสองเพียงแค่เดินก้าวเท้า
ยาวๆ และเว้นระยะห่างระหว่างกัน


มินกยูเหลือบตามองอีกคนเป็นระยะ เขาอยากที่จะคว้ามือของอีกคนมาจับไว้ แต่ถ้าทำอย่างนั้นพี่วอนอู
คงโกรธเขาแน่ๆ เลยทำได้แค่มองดูอีกคนที่เอาแต่ก้มหน้าเดิน

“พี่ไม่อยากให้ใครเห็นขนาดนั้นเลยหรอครับ” มินกยูถามทันทีที่เข้ามาในห้องของวอนอู
“ก็บอกไปแล้วนี่ว่าไม่อยากเป็นคนดัง” วอนอูพูดพลางถอดเสื้อคลุมตัวโคร่งออก
“พี่วอนอู” เรียกชื่อพลางคว้าอีกคนมากอดแน่น ก่อนผละออกโดยมีมือทั้งสองข้างจับที่ต้นแขนของอีก
คนไว้
“หืมม” วอนอูเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
ไม่มีคำตอบมาจากอีกคน มีเพียงริมฝีปากที่เข้าครอบครองริมฝีปาก วอนอูตาโตเพราะตกใจที่จู่ๆอีกคน
ก็จูบแบบไม่ทันตั้งตัว


จูบที่ไม่ดูดดื่มแต่ยาวนานราวกับโหยหา...
ผ่ามือหนาที่ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังอย่างรีบร้อน...
กระดุมเสื้อที่ถูกปลดออกหมดอย่างรวดเร็ว...
เข็มขัดที่ถูกถอดในพริบตา...
ซิปกางเกงที่ถูกรูดลงจนสุด...


ร่างที่ถูกกระทำสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อส่วนอ่อนไหวโดนสัมผัสจากมือหนาที่จงใจออกแรงบีบลงไป ก่อนที่จะ
สอดมือเข้าไปผ่านขากางเกงบ๊อกเซอร์ คว้าเข้ากับกางเกงชั้นในแล้วออกแรงดึงลงมา
“อื้อ อื้อ” คนถูกกระทำท้วงในความรีบร้อนของอีกคนพลางทุบไหล่เบาๆ
“ทุบทำไมครับ” หยุดการกระทำก่อนถามเสียงเข้ม แต่ยังไม่ทันที่อีกคนจะตอบก็คว้าเอวกางเกงก่อน
ดึงพรวดลงมาพร้อมกันสองตัว


มินกยูนั่งยองลงมือทั้งสองคว้าสะโพกมนมาจับไว้แน่นราวกับกลัวอีกคนจะหนีไปอย่างนั้น ก่อนที่จะใช้
สันจมูกโด่งลากผ่านหน้าท้องเรียบของอีกคนลงมายังส่วนอ่อนไหว
“อ๊ะ” คนถูกกระทำทำท่าจะถอยตัวหนี แต่มือหนาก็ออกแรงบีบสะโพกมนให้เพื่อตรึงไว้ให้อยู่ใน
ตำแหน่งเดิม ก่อนลุกพรวดขึ้นมาแล้วใช้มือซ้ายกอบกุมส่วนอ่อนไหวของอีกคนไว้อย่างเบามือแล้ว
ค่อยๆเลื่อนมือมาสัมผัสกับส่วนปลายที่เต็มไปด้วยของเหลว
“เปียกจังเลยนะครับ” เขากระซิบ พลางยกมือที่เลอะไปด้วยของเหลวขึ้นมาพิจารณา

วอนอูที่แม้จะรู้สึกแปลกๆกับน้ำเสียงของอีกคนแต่ก็ไม่ได้คิดที่จะพูดหรือถามอะไรออกไป เขาเพียงแค่
มองอีกคนด้วยความสงสัย ขาที่อ่อนแรงของเขาทำให้รู้สึกอยากจะทรุดตัวลงนั่งลงบนเตียง แต่ยัง
ไม่ทันที่จะได้นั่ง อีกคนก็จับตัวเขากลับหลังหัน





To Be Continued…


minwon fiction by @Serenity1707

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม