Resist Chapter 15 [Minwon Fiction]


Resist Chapter 15

“พี่อยู่ที่ไหนครับ”
“ห้องสมุด”
“พี่อยู่ตรงไหนครับ ตอนนี้ผมก็อยู่ที่ห้องสมุดเหมือนกัน”

ขณะรอข้อความตอบกลับจากอีกคนก็เดินไปรอบๆห้องสมุดเพื่อมองหา แต่จนแล้วก็ยังไม่มีข้อความ
ตอบกลับมาจากอีกคน เขาจึงพิมพ์บอกไปว่าเขาจะรออีกคนอยู่ที่ชั้นสามตรงโซนหนังสือสารานุกรม

15 นาทีต่อมา จึงได้รับข้อความจากอีกคน
“ไว้เจอกันที่ห้องนะ”
“ไม่อ่ะ ผมจะรอจนกว่าพี่จะมา”

กว่าชั่วโมงแล้วหลังจากที่เขาส่งขอความไปหาอีกคน ไม่มีข้อความใดๆตอบกลับมา เขาเปลี่ยนมานั่ง
รอวอนอูที่บันไดทางขึ้นห้องสมุดแทน

“ทำไมไม่กลับไปรอที่ห้อง” มินกยูได้รับข้อความจากอีกคนหลังจากที่นั่งรอมาเป็นเวลาสองชั่วโมง
เขายืนขึ้นมองไปรอบๆเพื่อมองหาอีกคน ร่างที่เดินออกมาจากหลังต้นไม้ใหญ่มองมาที่เขาแล้วก้ม
หน้าลงพิมพ์ข้อความอีกครั้ง
“อย่าเพิ่งถามอะไร ไว้ไปคุยกันที่ห้อง เดินตามมาห่างๆนะ”
“หึ” มินกยูส่งเสียงในลำคอออกมา บางทีก็นึกขันในความสัมพันธ์ของพวกเขาเหมือนกัน

“ทำไมอ่ะ พี่กลัวคนอื่นจะเห็นเราเดินด้วยกัน แต่พี่ไม่...” ทันทีที่ทั้งสองเดินเข้าไปในลิฟท์ของ
หอพัก มินกยูก็แทบจะทนต่อไปไม่ไหว เขาระเบิดอารมณ์ออกมา แต่พูดได้ไม่เท่าไรก็ถูกศอกของ
วอนอูกระทุ้งเข้าที่สีข้าง เพราะมีคนวิ่งเข้ามาในลิฟท์ก่อนที่ประตูลิฟท์จะปิดลง

ทั้งสองถอยหลังไปชิดไปด้านในสุดของตัวลิฟท์ เพื่อเว้นพื้นที่ให้คนที่มาเพิ่ม ทันทีที่ประตูลิฟท์ปิดลง
มินกยูคว้าข้อมือของวอนอูและออกแรงบีบจนอีกคนนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ วอนอูหันไปมองหน้า
คนกระทำที่ไม่แสดงออกใดๆ สีหน้าเรียบเฉยของอีกคนทำให้เขารู้สึกกลัวขึ้นมา เขาพยายาม
แกะมือของ
อีกคนออก แต่ดูเหมือนว่ายิ่งพยายามอีกคนยิ่งออกแรงบีบมากขึ้น




ประตูลิฟท์ถูกเปิดออกและคนทยอยออกมาลิฟท์ในแต่ละชั้น ทันทีที่เหลือเพียงสองคน มินกยูออกแรง
ผลักอีกคนจนหลังกระแทกกับผนังลิฟท์
“โอ๊ย...” วอนอูอุทานออกมาด้วยความเจ็บ
“อย่านะมินกยู” เขาร้องห้ามมินกยูที่กำลังเดิินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆพลางพยายามคลายมือที่บีบข้อมือของตัวเองออกแต่ก็ไม่เป็นผล เป็นเวลาเดียวกันกับที่ลิฟท์หยุดลง

ทั้งสองผละออกจากกันทันที่ที่ประตูลิฟท์เปิดออก วอนอูเหลือบมองตัวเลขบอกชั้นแล้วรีบก้าวออกไป
“นี่ชั้นเจ็ด” มินกยูที่เดินตามออกมาพูดเสียงเรียบ
วอนอูที่แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินรีบสาวเท้ายาวๆเดินตรงไปที่หน้าห้องของมินกยูและกดรหัสเข้าห้องอย่าง
ไม่รอช้า พอจัดแจงถอดรองเท้าเสร็จก็เดินไปที่ตู้เย็นคว้าขวดน้ำมาดื่มอึกใหญ่ ก่อนส่งให้อีกคนที่ยืน
มองดูอยู่เงียบๆและเพิกเฉยต่อขวดน้ำนั้นแล้วเริ่มถามคำถาม

“จะบอกได้หรือยังว่าไปไหนมา”
“ไปดูหนังมา” ตอบเสร็จก็ยกขวดน้ำขึ้นดื่มอีกรอบ
“กับไอ้นั่นน่ะหรอ”
“จุน เขาชื่อจุน” วอนอูแก้สรรพนามที่มินกยูใช้
“หึ ใครอยากรู้” มินกยูพึมพำเบาๆแต่ก็ยังได้ยิน
วอนอูแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินแล้วเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ชั้นวาง
“ทีไปกับมันไม่กลัวคนอื่นเห็น แต่กลับกลัวคนอื่นเห็นเวลาที่อยู่กับผมเนี่ยนะ”
“ก็เคยบอกไปแล้วไง” พูดโดยไม่สบตาแล้วเดินตรงไปที่ห้องน้ำ
“บอกว่าอะไร!” พูดด้วยน้ำเสียงที่ขึงขังและดังขึ้น
“ก็...” ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ
“ตกลงเราเป็นอะไรกัน จอน วอนอู!!” ไม่พูดเปล่าแต่ใช้กำปั้นชกไปที่ประตูห้องน้ำเต็มแรงผ่านหน้า
ของอีกคนไปอย่างฉิวเฉียด

วอนอูชะงักด้วยความตกใจที่เพิ่งเคยเห็นด้านนี้ของอีกคน เขาเข้าใจว่ามินกยูคงโกรธที่เขาโกหกแต่ดู
เหมือนว่ายังไม่เหมาะที่จะอธิบายอะไรในตอนที่อีกคนกำลังอารมณ์ขึ้นแบบนี้ จึงตั้งใจว่าจะเดินเข้า
ห้องน้ำไปอย่างเงียบๆ แต่พอก้าวเข้าไปได้ไม่กี่ก้าว แขนเรียวก็ถูกกระแชกเต็มแรงแล้วเหวี่ยงร่างของ
เขาจนเซล้มลงบนเตียง

ร่างที่ถูกเหวี่ยงล้มลงบนเตียงนอนในท่านอนคว่ำเขาพยายามใช้ศอกยันตัวเองขึ้น เป็นจังหวะเดียวกัน
กับที่อีกคนเข้ามาทาบทับร่างของเขาแล้วกดน้ำหนักตัวลงมา แม้ว่าจะพยายามดิ้นแต่ก็ไม่เป็นผล
“โอ๊ยยย” เขาร้องออกมาเพราะอีกคนกัดลงบนไหล่ข้างขวาของเขาเต็มแรง เขาหลับตาและหยุดนิ่ง
พยายามอดกลั้นกับความเจ็บรอจนกระทั่งอีกคนผละออก

เมื่อร่างที่ทาบทับร่างของเขาผละออกมา เขาพลิกตัวในท่านอนหงายแล้วค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่ง โดยมี
สายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเขาอยู่ไม่ห่าง
“มินกยู” เขาตัดสินใจเรื่องชื่อของอีกคน แต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ เอวบางก็ถูกคว้าโดยมือหนา
แล้วคว้าไปโดยรอบเอวราวกับกำลังหาอะไร ก่อนพูดออกมาด้วยเสียงเข้ม
“เข็มขัด” น้ำเสียงเข้มกับคิ้วที่ขมวดเป็นเชิงถาม
วอนอูก้มลงมองที่เอวกางเกงของตัวเองก่อนมีสีหน้าตกใจ “เอ่อ...” เขาพยายามนึกว่าเขาเอามันไป
ไว้ที่ไหนแล้วถอดมันออกไปตั้งแต่เมื่อไร แต่พอมีสายตาที่คาดคั้นอยู่ตรงหน้าในหัวก็ตื้อไปหมด
“ไปไหนมา” ถามพลางขบกรามแน่นราวกับพยายามอดกลั้น
“เอ่อ...คือ...” วอนอูตอบตะกุกตะกัก เขาไม่รู้ว่าจะเริ่มอธิบายตรงไหนก่อนดี

เสื้อนักศึกษาถูกกระชากจนขาด แม้จะพยายามขยับตัวหนี แต่มือหนาก็คว้าข้อเท้าแล้วดึงเข้าหาตัว
ก่อนจะคร่อมร่างไว้ใต้ร่างของตัวเองแล้วพยายามปลดกระดุมกางเกงของอีกคน
“อย่านะ มินกยู” คนถูกกระทำร้องห้ามพลางพยายามผลักอีกคนออก
“ต้องการนักไม่ใช่หรอ” เขาพูดหลังจากที่ปลดกางเกงของอีกคนออก ก่อนที่จะเลื่อนสายตาลงไปที่
ส่วนอ่อนไหวของอีกคน ที่แม้ว่าจะถูกปกปิดอยู่ภายในกางเกงชั้นในแต่ก็เห็นได้ชัดถึงความคับแน่นจาก
การขยายตัว
วอนอูอาศัยจังหวะที่อีกคนลุกขึ้นนั่งใช้ศอกยันตัวและถอยหนีอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่ข้อเท้าที่ถูกคว้าแต่มือ
หนาคว้าเข้าที่ขอบกางเกงชั้นในของเขา คนกระทำยักคิ้วแบบคนถือไพ่เหนือกว่า เพราะยิ่งเขาถอยห่าง
ออกไปกางเกงชั้นในก็จะถูกดึงลงต่ำมากขึ้นเท่านั้น

เขาลุกขึ้นนั่งได้สำเร็จหลังจากอยู่ในท่ากึ่งนอนกึ่งนั่งทำให้ทำอะไรได้ไม่ถนัดนัก พยามยามแกะมือที่จับ
กางเกงชั้นในของตัวเองออก ในขณะที่อีกคนพยายามที่จะดึงมันออกแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะเขากดน้ำหนักลงไปกับท่านั่ง
“หยุดนะ” เสียงแหบพร่าที่พยายามจะทำเสียงเข้มร้องห้ามอีกคน และได้ผลอีกคนปล่อยมือ ผละออก
จากเขาแล้วเดินลงจากเตียงไป
เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ขืนวันนี้เขาปล่อยให้อีกคนทำตามใจชอบ เขาต้องแย่แน่ๆเมื่อคืน
ยังไม่หายเจ็บเลย เขาลุกจากเตียงแล้วมองหากางเกงที่ถูกโยนออกไปตรงไหนสักแห่งในห้อง ก่อนที่
จะก้มลงหยิบมันขึ้นมา เป็นเวลาเดียวกันกับที่เอวบางถูกรวบด้วยอ้อมแขนแกร่งของอีกคน วอนอูสะดุ้ง
เล็กน้อยเพราะอีกคนรวบตัวเขาไปชิดจนสัมผัสได้ถึงอวัยวะแข็งขืนที่เบียดอยู่ตรงสะโพกด้านหลังของเขา

“แต่เมื่อกี้อีกคนยังใส่เสื้อผ้าครบนี่แล้วทำไมตอนนี้” เขานึก ก่อนที่มือหนาจะสอดเข้ามาภายใต้
กางเกงชั้นในของเขาแล้วกอบกุมส่วนอ่อนไหวของเขาเอาไว้
“มินกยูอย่า” ตั้งใจจะทำเสียงเข้มแต่เสียงที่ออกมากลับเป็นเสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือ
สัมผัสจากอีกคนมันทำให้เขาแทบจะทรงตัวไว้ไม่อยู่
“ไม่สิ มันต้องไม่เกิดขึ้น” เขานึกพลางพยายามปัดป้องมือหนาแล้วแกะอ้อมแขนที่รัดรอบเอวของตัว
เองออก อีกคนหยุดการกระทำ คลายอ้อมแขนออก แล้วผละออกจากเขา

วอนอูกลับหลังหันไปตั้งใจจะทำหน้าดุใส่อีกคน แต่พอเห็นสายตาดุดันก็เปลี่ยนใจเป็นหลบสายตาแล้ว
ตั้งใจว่าจะเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างเงียบๆ แต่ก้าวขาได้ไม่เท่าไรก็ถูกผลักจนเซล้มลงข้างเตียง จากนั้น
กางเกงชั้นในจะถูกดึงออกในคราเดียวทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาพยายามตะกายขึ้นไปบนเตียง
เพื่อหนีอีกคน แต่มือหนาก็คว้าสะโพกของเขาไว้ กลายเป็นว่าในตอนนี้ลำตัวท่อนบนของเขาพาดอยู่
บนเตียงส่วนอีกครึ่งคุกเข่าของบนพื้นห้อง

เขาพยายามดิ้นและแกะมือที่บีบสะโพกข้างซ้ายของเขาไว้แน่นจนเริ่มรู้สึกเจ็บ “อ๊ะ” เขาร้องออกมา
อีกครั้งเพราะแรงกัดบนคอข้างขวาของเขา แม้จะไม่แรงเท่าแรงกัดก่อนหน้านี้ แต่ก็ทำให้รู้สึกเจ็บไม่
น้อยเลย

แต่นั่นก็ยังไม่เท่าความเจ็บที่เบื้องล่างในตอนนี้ ที่จู่ๆอีกคนก็รุกล้ำเข้ามาพรวดเข้ามาทีเดียวจนสุด ทั้ง
รู้สึกเจ็บและจุกจนต้องคว้าผ้าปูที่นอนมากำในแน่น

“มินกยู จจะ...” พยายามจะบอกอีกคนว่าเจ็บแต่อีกคนที่เคลื่อนออกก็ขยับพรวดเข้ามาอีกครั้งเต็ม
แรง จนต้องร้องออกมา พอถูกกระทำซ้ำๆแบบเดิมไปเรื่อยๆความเจ็บก็เริ่มน้อยลง

จากความเจ็บที่ส่วนล่างแปรเปลี่ยนมาเป็นหน้าท้องที่เกร็งจนเริ่มรู้สึกเจ็บ อีกคนหยุดการกระทำชั่วครู่
ก่อนที่จะเร่งความเร็วขึ้นจนคนถูกกระทำร้องไม่ได้ศัพท์เพราะรู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหวจนต้องปลดปล่อย
ออกมา

คนถูกกระทำทรุดตัวลงทันทีที่ทุกอย่างหยุดลงและอีกคนผละออกจากเขาแล้ว เขาก้มหน้าพยายามจะ
ควบคุมลมหายใจให้เป็นปกติ รู้สึกราวกับว่าตัวเองเพิ่งไปแข่งวิ่งมาอย่างนั้น ขาและแขนหมดเรี่ยวแรง
จู่ๆไฟในห้องก็ดับลง เขามองไปยังต้นเหตุ ก็เห็นเงาของอีกคนที่เดินไปปิดไฟแล้วกำลังเดินกลับมาที่
เตียง พลางนึกในใจว่าตอนนี้คงเย็นลงแล้วสินะ

แต่ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิด เมื่ออีกคนคว้าเข้าที่ต้นแขนของเขาก่อนจะดึงตัวเขาให้ขึ้นไปอยู่บนเตียง
นอน คร่อมร่างของเขาเอาไว้ก่อนจะใช้มือจับแยกขาทั้งสองข้างของเขาออกจากกันแล้วแทรกตัวเข้า
ไปอยู่ระหว่างหว่างขานั้น  

“มินกยูอย่า...” เป็นอีกครั้งที่เขาร้องห้ามอีกคน
“จะตอบได้หรือยังว่าเราเป็นอะไรกัน” มินกยูโน้มหน้าลงไปกระซิบด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกที่ข้างหูของ
อีกคน เพื่อทวงคำตอบของคำถามที่เขายังไม่ได้รับ
“มินกยู” วอนอูเรียกชื่อของอีกคนพลางใช้มือลูบแผงอกเพื่อหวังให้เขาเย็นลง ก่อนที่จะออกแรงผลัก
ร่างของอีกคนให้นอนลงอย่างง่ายดายดูเหมือนว่าอีกคนจะเย็นลงแล้ว

ตอนนี้กลายเป็นว่าร่างของเขานั่งอยู่คนตัวของมินกยู เขาโน้มหน้าลงไปใกล้ใบหน้าของอีกคนแล้วใช้
ริมฝีปากของตัวเองสัมผัสกับริมฝีปากของอีกคนอย่างแผ่วเบาก่อนผละออก แล้วซบหน้าลงบนแผงอก
แกร่งนั้น หูแนบฟังเสียงหัวใจของอีกคนที่เต้นระรัว ก่อนจะผล็อยหลับไปเพราะความเพลีย

แต่...ทุกอย่างก็เป็นเพียงแค่ความคิดของเขาเท่านั้น หลังจากที่ละริมฝีปากออกมา ซบลงแผงอกได้
ไม่เท่าไรอีกคนก็ลุกพรวดขึ้นมานั่งแล้วดึงขาของเขาเข้าหาตัว ก่อนจะจับส่วนอ่อนไหวของตัวเองพลาง
ใช้แขนอีกข้างโอบเอวของเขาแล้วยกตัวขึ้น ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากพอรู้ตัวอีกทีก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ส่วน
ล่าง

พอรู้สึกเจ็บร่างกายก็เริ่มต่อต้านเขาพยายามยันตัวลุกขึ้นแต่อีกคนที่แรงมากกว่าก็คว้าเอวทั้งสองข้าง
ของเขาเอาไว้ก่อนจะออกแรงกด จนบั้นท้ายของเขากระแทกลงบนต้นขาของอีกคนและนั่นก็ทวีความ
เจ็บ จนต้องร้องออกมา “อ๊าาาา” หอบหายใจอย่างอดกลั้นแล้วพูดออก มาด้วยเสียงแหบพร่า
“จ..จะ..เจ็บ”

“เจ็บหรอครับ” มินกยูกระซิบถาม วอนอูพยักหน้าแทนคำตอบ แต่เพราะความมืดทำให้วอนอูไม่เห็น
รอยยิ้มมุมปากของอีกคน อย่างไม่ทันได้ตั้งตัวมือหนาก็จับเข้าที่สะโพกมนก่อนจะยกขึ้นและกดลงอีก
ครั้ง คนถูกกระทำตาเบิกโพรงทั้งตกใจและเจ็บในเวลาเดียวกัน หรือว่าเมื่อกี้อีกฝ่ายจะไม่เห็นว่าเขา
พยักหน้าตอบ จึงตัดสินใจบอกออกไปว่า “มินกยู..เจ็บ”

พอสิ้นเสียงมือหนาก็ยกสะโพกเขาขึ้นและกดน้ำหนักลงมาอีกแต่ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวเขาทำซ้ำๆอยู่
อย่างนั้น มือของวอนอูปัดป่ายหาที่ยึดจับแล้วคว้าเอาไหล่กว้างของอีกคนก่อนกดน้ำหนักที่ปลายนิ้ว
ลงไป

มินกยูเริ่มรู้สึกได้ถึงของเหลวเหนอะที่บริเวณท้องน้อยของเขา และนั่นทำให้เขารู้ได้ในทันทีว่าอีกคน
ใกล้จะได้เวลาของการปลดปล่อยแล้ว เขาหยุดการกระทำเสียอย่างนั้น

“อื้อ~~~มินกยู” วอนอูส่งเสียงที่แทบจะฟังไม่ได้ศัพท์ พลางซบหน้าลงบนไหล่กว้างก่อนเลื่อนมือไป
จับมือหนาที่ยังคงเกาะกุมสะโพกมนของตัวเองไว้
มินกยูรู้ดีว่าอีกคนต้องการจะสื่ออะไร เขายกยิ้มมุมปากอีกครั้งก่อนกระซิบใส่อีกคน
“ขอร้องสิครับ”
วอนอูไม่ได้ตอบอะไรเพียงแค่บีบมือของอีกคนแน่น แม้ว่าจะรู้ความหมายได้ในทันทีแต่มินกยูก็ยังอยาก
จะแกล้งอีกคน “ทำไมล่ะครับ เมื่อกี้ยังบอกให้หยุดอยู่เลย”

วอนอูพยายามจะยกสะโพกของตัวเองขึ้นและมือหนาที่ยังคงเกาะกุมก็ยิ่งกดสะโพกของเขาไว้แน่น
“จะตอบคำถามได้หรือยังครับ” มินกยูทวงคำตอบอีกครั้ง
“แฟน” วอนอูตอบเสียงแผ่ว จนอีกคนต้องเอ่ยปากถามอีกครั้ง “อะไรนะครับ”
“งื้อ~~แฟน” วอนอูตอบอีกคน พอสิ้นเสียงของอีกคน มินกยูปล่อยมือจากสะโพกมนแล้วเอนตัวลง
นอน
“งื้อ~~” วอนอูส่งเสียงในลำคอเป็นการประท้วงเบาๆ ก่อนที่มินกยูจะใช้ปลายนิ้วของตัวเองสัมผัสไป
มาที่ส่วนปลายของส่วนอ่อนไหวเป็นการกระตุ้นอีกคน และดูเหมือนว่าเป็นวิธีที่ได้ผลเพราะอีกคนเริ่ม
ขยับสะโพกของตัวเอง

การเคลื่อนไหวขึ้นลงเริ่มต้นด้วยความเนินนาบ ก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้น เสียงผิวกายที่กระทบกันดัง
อย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ค่ำคืนที่แสนจะเหน็ดเหนื่อยกำลังจะจบลง

เมื่อเห็นสีหน้าที่ราวกับว่าจะทนไม่ไหวของอีกฝ่ายเขาเปลี่ยนให้ตัวเองมาแทนที่ด้านบน แล้วเปลี่ยน
บทบาทเป็นคนคุมเกมนี้ไปจนถึงตอนจบแทน




To Be Continued…


minwon fiction by @Serenity1707

ความคิดเห็น

  1. Live Casino Site - LuckyClub
    Join LuckyClub and enjoy our casino games and sportsbook in Las Vegas! Experience unique slots, bingo and live luckyclub blackjack in our casino. With  Rating: 3.3 · ‎1,732 votes

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม