Resist Chapter 1 [Minwon Fiction]
Resist
Fiction
Chapter
1
17.00 น.
ผมล่ะไม่เข้าใจตัวเองจริงๆว่าทำไมจะต้องรีบกลับห้องมาให้ทันก่อน
เวลา 17.00 น.ของทุกวัน
เพื่อมารอเปิดประตูห้องให้ใครบางคนที่มักจะมาเคาะประตูห้องของผมในเวลา 17.00 น. ของทุกวัน – คิม มินกยู
นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 1และนักกีฬาบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัย
หนุ่มฮอตที่ไม่ว่าจะทำอะไรหรือจะเดินไปไหนก็มักจะเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆในมหาวิทยาลัยอยู่เสมอ
“วันนี้นายทำดีมากเลยนะ มินกยู”
ซึงซอล รุ่นพี่ปี 3 หัวหน้าทีมบาสเกตบอล เดินมาหาหลังจากที่การซ้อมของวันสิ้นสุดลง
“ขอบคุณครับ” มินกยู กล่าวสั้นๆพลางรับลูกบาสในมือของรุ่นพี่มาถือไว้
“ขอบคุณนะทุกคนที่มาซ้อมกันทุกวัน
และขอบคุณที่พยายามด้วยกันนะ” ซึงซอล
ยืนกล่าวต่อหน้าลูกทีมที่มารวมตัวกันที่ริมสนาม ก่อนแยกย้ายกันไป
“วันนี้เป็นวันซ้อมวันสุดท้ายของเทอมหนึ่ง
เราจะงดซ้อมกันสองอาทิตย์ เพื่อให้ทุกคนได้มีเวลาอ่านหนังสือสำหรับเตรียมสอบ
และจะกลับมาซ้อมกันอีกครั้งหลังจากสอบเสร็จ วันนี้แยกย้ายกันได้” พูดจบก็ส่งยิ้มกว้างแบบที่ชอบทำ พลางยืนโบกมือรอส่งลูกทีมกลับจนหมด
แล้วจึงหันกลับมาหารุ่นน้องที่นั่งรออยู่บนอัศจรรย์ชั้นล่างสุด
“ป่ะ กลับกันเถอะมินกยู” ส่งเสียงเรียกรุ่นน้องที่กำลังพยายามเลี้ยงลูกบาสบนนิ้วชี้อยู่
ก่อนจะรีบลุกขึ้นทันทีที่ได้ยินเรียกเสียงชื่อของตัวเอง
“อื้ม แล้วนี่หาพี่รหัสเจอหรือยังล่ะ จะหมดเทอมหนึ่งแล้วนะ” ซึงซอลถามขึ้นระหว่างทางเดินกลับไปที่ห้องชมรม
“ยังเลยครับ พี่เค้าหาตัวยากจัง จนผมสงสัยว่าพี่เค้ามีตัวตนอยู่มั้ย
หรือว่าพี่เค้ามาเรียนบ้างหรือเปล่าเนี่ย” มินกยูตอบพลางทำหน้ามุ่ย
ซึงซอลหัวเราะให้กับหน้ามุ่ยๆของมินกยู
“พี่อย่าขำสิ ผมจริงจังนะ พอไปถามใครก็ไม่เห็นจะมีใครรู้จักเลย” พูดพลางทำปากจู๋ “ว่าแต่...” เขาพูดต่อ
แต่หยุดคำพูดไว้ก่อนที่จะหันไปจ้องหน้ากับรุ่นพี่ที่เดินมาด้วยกัน
“หืมมม” ซึงซอลทำสีหน้าสงสัยใส่
“พี่จะไม่บอกผมจริงๆหรอ ใบ้นิดนึงก็ได้นะๆ” ทำหน้าอ้อนใส่รุ่นพี่
“พี่รหัสนาย นายก็ต้องหาด้วยตัวเองสิ”
“บอกแค่ชื่อก็ได้นะๆ” พูดด้วยน้ำเสียงอ้อน
พลางยกมือสองข้างขึ้นมาถูกันเป็นเชิงวิงวอน
“หรือบางที พอรู้ว่าน้องรหัสเป็นนาย เค้าเลยไม่อยากเจอนายก็ได้นะ” ซึงซอลพูดแหย่
“โหยยย ไรอ่ะ ผมออกจะหล่อ หรือกลัวหล่อสู้ผมไม่ได้อ่ะดิ” พูดพลางยืดอก เชิดหน้า
“ไปฟ้องดีกว่า” ซึงซอลว่าก่อนออกตัววิ่งหนี
รุ่นน้องจอมโว
“เฮ้ย พี่...เดี๋ยวสิ” มินกยูตะโกนก่อนที่จะออกวิ่งตามอีกคนไป
ห้องชมรมบาสเกตบอล
ทั้งสองทรุดตัวลงบนโซฟาที่อยู่กลางห้อง พลางหอบหายใจเหนื่อย
ยังไม่ทันที่จะมีใครพูดอะไร เสียงเตือนจากโทรศัพท์ของซึงซอลก็ดังขึ้น
เขารีบลุกไปหยิบมันมากดอ่านข้อความทันที
“ต้องไปละอ่ะ ฝากล็อคห้องด้วยนะ” พูดพลางหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายบ่า
“เดี๋ยวสิพี่ พี่จะไม่บอกผมจริงๆหรอ” ทำหน้างอใส่อีกคน
ขำสีหน้าของรุ่นน้องอีกครั้งก่อนตอบ “อันที่จริง
พี่ก็ไม่รู้หรอกว่าพี่รหัสของเราคือใคร ถ้ารู้คงบอกไปนานล่ะ” ว่าจบก็หัวเราะเสียงดังก่อนเดินออกไปจากห้องทิ้งให้รุ่นน้องนั่งหน้าเหวออยู่คนเดียว
“อ้าว” มินกยูมองตามหลังรุ่นพี่ที่ค่อยๆไกลออกไปช้าๆ
ก่อนจะหันกลับมาหยิบลูกบาสไปเก็บในตู้ พลางถอนหายใจ
“นี่มันพี่รหัสหรือแหวนลอร์ดออฟเดอะริง ทำไมหายากอย่างนี้เนี่ย” เขาพึมพำ ก่อนที่จะนึกถึงคีย์เวิร์ดที่ได้รับมาในวันที่มีการประกาศสายรหัส
“หนังสือ/แว่นตา/...”
ไอ้หนังสือ กับแว่นตานี่ก็กว้างมากๆแล้ว และยังจะมี จุดจุดจุด อีก
มินกยูล่ะปวดหัวจริงๆ กลับห้องไปอาบน้ำนอนดีกว่า ถ้าไม่อยากเจอกัน ก็ไม่ต้องเจอสิ
แล้วจะเสียใจที่มีคนหล่อๆอย่างมินกยูเป็นน้องรหัส เชอะ -*-
วันต่อมา
“ไม่ไปด้วยกันจริงๆหรอมินกยู” หมิง ฮ่าว และซอกมิน
เพื่อนร่วมชั้นเรียนเอ่ยทันทีที่คลาสเรียนสุดท้ายของวันนี้จะจบลง
“ไม่ล่ะ” มินกยูตอบสั้นๆก่อนลุกขึ้นจากเก้าอี้
“อย่าบอกนะว่าจะกลับไปอ่านหนังสือ” ซอกมินแซว
“ก็...เปล่า วันนี้ขี้เกียจอ่ะ ไว้วันหลังนะ” มินกยูพูดพลางหยิบหนังสือแล้วเดินออกจากห้องไป
ทั้งๆที่วันนี้มีเวลาว่างหลังเลิกเรียนเพราะไม่ต้องไปซ้อมบาสเหมือนทุกวัน
แต่ไม่รู้ว่าทำไมมินกยูถึงไม่รู้สึกว่าอยากจะไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนเหมือนทุกครั้ง
เขาเดินออกมาจากอาคารเรียนทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะไปไหนเหมือนกัน
สายลมของต้นฤดูหนาวพัดผ่านร่างสูง
ที่เดินไปตามทางเดินกลางมหาวิทยาลัยอย่างไร้จุดหมาย
มือขวาถือกระเป๋าสีเทาที่เอาขึ้นมาพาดไว้บนไหล่ ส่วนมือ
จดหมายฉบับแล้วฉบับเล่าที่มินกยูได้รับจากสาวๆจากทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย
แม้ว่าเขาจะไม่ได้โยนจดหมายเหล่านั้นทิ้งไป
แต่เขาก็ไม่เคยที่จะเปิดอ่านมันเลยสักฉบับ แม้จะรู้สึกดีที่ได้รับมัน
แต่เขาไม่คิดว่าเขาจะชอบคนเหล่านั้นได้
ในความคิดของเขาคือคนเหล่านั้นไม่ได้รู้จักเขาดีไปกว่านักกีฬาบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัยสักหน่อย
การจะชอบหรือสารภาพรักกับใครสักคนควรจะต้องรู้จักกันมากกว่านี้สิ
เดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนมาหยุดที่หน้าหอพักชาย SVT ถึงจะเป็นหอนอก แต่ก็อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก
เขาใช้เวลา 15 นาที ของทุกวันเพื่อเดินไปมหาวิทยาลัย
มินกยูหยิบคีย์การ์ดออกจากกระเป๋า
แล้วแตะมันไปที่ประตูก่อนที่ประตูจะเปิดออกและก้าวเข้าไปในตึกที่เป็นหอพักสูง 8 ชั้น ที่มีระบบความปลอดภัยแน่นหนา
ใช้ระบบคีย์การ์ดตั้งแต่ประตูทางเข้าตึกไปจนถึงประตูห้อง
และคีย์การ์ดของแต่ละชั้นก็ไม่สามารถใช้กับชั้นอื่นได้
พื้นของตึกทุกชั้นปูด้วยหินอ่อน ห้องทุกห้องมีเครื่องปรับอากาศ เครื่องทำความอุ่น
และเฟอร์นิเจอร์ที่ครบครัน จนนักศึกษาถึงกับตั้งชื่อเล่นๆ ให้กับหอพักนี้ว่า
หอไฮโซ
เขากดลิฟต์ไปที่ชั้น 8 และแตะคีย์การ์ดอีกครั้งที่ประตูห้องของตัวเอง
จัดการวางกระเป๋าลงบนโต๊ะเขียนหนังสือ
ก่อนจะไปหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลที่วางอยู่บนหัวเตียง บอกเวลา 16.30 น. มีไม่กี่ครั้งหรอกที่เขาจะได้กลับห้องเร็วแบบนี้ เลยแอบถอนหายใจออกมา
เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี ก่อนจะเดิน
ไปเปิดตู้เย็น หยิบนมที่แช่ไว้มาเปิดดื่มจนหมดขวด
แล้วจึงเดินไปกดปุ่มเปิดโทรทัศน์ที่อยู่ติดกับตู้เย็น
กดรีโมทเปลี่ยนช่องเพื่อหารายการที่น่าสนใจไปเรื่อยๆแต่ก็ไม่มีอะไรที่น่าสนใจสำหรับเขาเลย
ถอนหายใจออกมาแล้ว เดินออกไปที่ระเบียงห้อง
เขามองออกไปรอบๆตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มแดงและกำลังค่อยๆมืดลง
เขาปลดเนกไทออกแล้วโยนลงไปในตะกร้าผ้า ยืนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
พอไม่มีอะไรทำก็ดูเหมือนทุกอย่างจะน่าเบื่อไปเสียหมด
หน้าปัดนาฬิกาบอกเวลา 17.00 น.
เสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาเหลือบมองนาฬิกา ก่อนจะเดินไปที่ประตูห้อง “ใครกันที่มาหาเขาถึงที่นี่ในเวลานี้”
ทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดก็ปรากฏร่างของชายหนุ่มร่างผอมบาง
ในชุดนักศึกษา กับสีหน้าที่เรียบเฉย ที่ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ
ทั้งสองมองหน้ากันอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่ผู้มาใหม่จะพูดขึ้น “คิม...มิน...กยู
หรือเปล่า” เขาทำท่าเหมือนพูดไปนึกไป อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับไปแบบงงๆ
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นคนๆเดียวกับชื่อที่เอ่ยถามออกไป
คนมาใหม่ก็เดินแทรกตัวเข้าไปในห้องของเจ้าของชื่อทันที
“เอ่อ...คือ” มินกยู มองตามหลังอีกคนอย่างทำตัวไม่ถูก
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดอะไร อีกฝ่ายก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงของเขาไปเรียบร้อยแล้ว
ไม่เพียงแต่กระโจนขึ้นเตียงในท่านอนคว่ำเท่านั้น แต่ยัง
กลิ้งไปตามเตียงนอนของเขาในท่ายืดตัวยืดตัวบิดขึ้เกียจ
จนเสื้อเชิ้ตที่ใส่อยู่เปิดขึ้น เผยให้เห็นขอบกางเกงบ๊อกเซอร์สีฟ้าและหน้าท้องขาวๆ
มินกยูที่ยังคงทำอะไรไม่ถูก ได้แต่จ้องมองคนตรงหน้าและลอบกลืนน้ำลาย .
. .
To Be Continued ...
minwon fiction by @Serenity1707
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น