Just Acting No.3

Just Acting No.3

“ฉากต่อไป ฉากห้องนั่งเล่นนะคะ นักแสดงเปลี่ยนชุดเรียบร้อยนะคะ เซตฉาก แสง
เรียบร้อยค่ะ จะซ้อมถ่ายใน 5 นาทีนะคะ” หนึ่งในทีมงานประกาศ

“ถ้าอยากกลับเร็วก็ต้องตั้งใจนะรู้ไหม” ผู้จัดการพูดพลางตรวจดูทรงผมและเสื้อผ้าอีกครั้ง
วอนอูไม่ตอบอะไรเพียงแค่พยักหน้าทั้งๆที่ยังคงก้มหน้าดูดน้ำหวานในแก้ว
“พอแล้วเดี๋ยวก็ปวดห้องน้ำกันพอดี” ผู้จัดการยื่นมือออกไปรอรับแก้วในมือของเขา
แต่ก็ขอดูดอีกสองสามอึกใหญ่ก่อนส่งแก้วให้
“มาอัพรูปลงโซเซียลหน่อยมา” พูดพลางกดเปิดกล้อง แล้วไล่ให้ไปนั่งลงบนโซฟาแต่
เจ้าตัวดันนอนลงไป
“นั่งดีๆสิ”
“ก็มันเมื่อยนี่ครับ”
“นายนี่มัน” พูดบ่นแต่ก็ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป

รูปของวอนอูในชุดเสื้อเชิ้ตตัวบางที่ถึงแม้ว่าจะมีเสื้อกล้ามสีขาวด้านในแต่ก็ยังดูเซ็กซี่
เล็กๆ กระดุมสองเม็ดบนที่ถูกปลดออกเผยให้เห็นผิวขาวๆ ไล่ลงมาตั้งแต่คอจนถึงอกด้าน
บน ท่านอนหงายบนโซฟา กับสายตาที่จ้องมองตาแป๋ว ถูกอัพโหลดลงบนอินสตาแกรม
ออฟฟิเชียลเพียงไม่กี่นาทีก็มีคนมากดไลค์หลักแสน คนที่มาคอมเมนท์คนแรกก็ส่งหัวใจ
1 ดวงมาให้ แต่เจ้าตัวยังไม่รู้ตัวเพราะต้องรีบไปเตรียมตัวเข้าฉากเสียก่อน

“ฉากห้องนั่งเล่น เริ่มจากวอนอูนั่งเล่นเกมอยู่หน้าทีวีนะ แล้วมินกยูที่เพิ่งกลับมาจากข้าง
นอกก็เข้าไปแกล้ง แย่งจอยในมือกันไปมา จนเสียหลักทั้งคู่นะ” ผู้กำกับอธิบายพลางจัด
ท่าทางของทั้งสองคน
“เข้าใจนะ”
“ครับ” ทั้งสองตอบรับ
“โอเค เริ่มซ้อมได้”

วอนอูที่กำลังนั่งขัดสมาธิเล่นเกมส์อยู่หน้าจอทีวีในห้องรับแขกด้วยชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวตัว
บางกับกางเกงขาสั้นสีดำ มินกยูที่เดินเข้าห้องมาเจออีกคนกำลังจดจ่ออยู่กับเกมก็นึก
อยากแกล้งจึงเดินเข้าไปนั่งยองๆ ประชิดด้านหลังของอีกคน แล้วพยายามแย่งจอยในมือ
แย่งกันไปมาจนมินกยูเสียหลักล้มลงไป ตามด้วยวอนอูที่ล้มทับลงไปบนตัวของอีกคน

“โอเค ได้อยู่นะ แต่ถ่ายจริงขอเป็นธรรมชาติมากขึ้นนะ อย่าลืมหัวเราะ หรือจะคุยกันเพื่อ
ให้ดูสมจริงก็ได้ เพราะเราตัดเสียงออกอยู่แล้ว” ผู้กำกับให้คำแนะนำ
“ครับ” ทั้งสองขานรับ
“ถ่ายจริงเลยนะ พร้อมไหม” เขาถาม
“พร้อมครับ” มีเพียงแค่มินกยูเท่านั้นที่ตอบ
“เราล่ะ” เขาหันไปถามวอนอู
“อ่า...ครับ พร้อมครับ” วอนอูตอบ

การถ่ายทำฉากที่สองเริ่มต้นขึ้น วอนอูที่มัวแต่สนใจกับเกม จนอีกคนที่เพิ่งกลับมานึก
อยากจะแกล้งเข้า จึงลงไปนั่งยองที่ด้านหลัง แต่ตอนนี้มันต่างจากตอนซ้อมเพราะท่านั่ง
มินกยูที่ทำให้ตัวของวอนอูไปนั่งอยู่ที่หว่างขาของอีกคน
“นายจะทำอะไร” วอนอูหันไปถาม
“จะได้สมจริงไงครับ” มินกยูก้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหู จนวอนอูเอียงคอหลบ ก่อนจะชี้
ไปที่จอโทรทัศน์เตือนให้อีกคนอยู่ในบท

กล้องจับภาพจากมุมด้านข้างของคนสองคนที่กำลังยื้อแย่งจอยเกมในมือกันไปมา จน
กลายเป็นว่าตอนนี้คนที่ถูกแกล้งเข้าไปดูในอ้อมกอดของอีกคน
“ไม่เห็นเหมือนตอนที่ซ้อมเลย” วอนอูนึกแต่ก็พยายามอดกลั้นเพื่อให้การถ่ายทำดำเนิน
ต่อไป คนถูกแกล้งดิ้นอยู่ในอ้อมแขนจนอีกคนเสียหลักหงายหลังลงไป ส่วนตัวเองก็เสีย
หลักล้มทับลงบนตัวอีกคน แต่ก่อนที่จะล้มตัวลงไปวอนอูก็คิดอะไรบางอย่างออก
“ค้างไว้นะค้างไว้ กล้องเก็บภาพหลายๆมุมด้วย” เสียงผู้กำกับสั่ง

คนที่ตัวเล็กกว่าล้มไปอยู่บนตัวของคนที่ตัวใหญ่กว่า พอตั้งสติได้เขายันตัวขึ้นเป็นเวลา
เดียวกันกับที่อีกคนมองมาพอดี ทำให้ดวงตาทั้งสองคู่สบตา

ขณะที่กล้องกำลังเก็บภาพของสองคนในหลายๆมุม คิ้วของมินกยูก็เริ่มขมวดขึ้นทีละนิดๆ
จนในที่สุดผู้กำกับก็สั่งคัท เขาลุกขึ้นนั่งหลับตาและสูดหายใจเข้าลึกๆ ส่วนคนต้นเหตุก็
ทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ถูกคว้าแขนเอาไว้จนเสียหลักทรุดตัวลงนั่งอีกครั้ง
“ถ้าอยากจับก็บอกกันดีๆก็ได้นี่ครับ” เขากระซิบที่ข้างหูของวอนอู
“นี่นาย...บ้าไปแล้วหรอ” วอนอูพูดเสียงดังแต่แล้วก็ต้องลดเสียงลงเพราะกลัวคนอื่นได้ยิน
“ผมพูดผิดตรงไหน”
“ทุกตรงนั่นแหละ ใครจะอยาก...” วอนอูหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านี้
“แต่เมื่อกี้ก็จงใจไม่ใช่หรอครับ”
“จงใจบ้าอะไรล่ะ แล้วทีนายล่ะ ไม่ได้ทำตามที่ซ้อมไว้นี่”
“นักแสดงเปลี่ยนชุดค่า” ทีมงานคนหนึ่งตะโกนบอก เป็นอันยุติศึกโดยอัตโนมัติ
“เป็นไงมั่ง” ผู้จัดการถามทันทีที่วอนอูเดินกลับมาถึงบริเวณ ที่ถูกจัดไว้เป็นส่วนตัว
“เหลืออีกหลายซีนไหมครับ”
“อืมมม ก็เหลืออีกไม่เยอะนะ เอาน่านี่ก็มาครึ่งทางละ ทนๆหน่อย”
“เฮ้อ” วอนอูถอนายใจพลางหยิบเสื้อแล้วเดินไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
“นี่ดูสิ พอลงรูปในไอจีไปเมื่อกี้นะ แปบเดียวมีคนกดไลค์เป็นแสนแล้วอ่ะ”
เขาไม่ตอบอะไรเพียงแค่ยักไหล่
“แถมน้องมินกยูยังมาคอมเม้นท์เป็นคนแรกอีก” พูดพลางยื่นโทรศัพท์ให้อีกคนดู
“ห้ะ...นี่พี่อัพรูปนี้ลงไปหรอ”
“ทำไมล่ะ มีแต่คนชอบดูคอมเม้นท์สิ”

“นักแสดงสแตนบายใน 5 นาทีครับ” เสียงทีมงานตะโกนบอก
“เสร็จหรือยังวอนอู เอ้า...ละนี่ใส่เสื้อคลุมทำไมล่ะ”
เขาไม่ตอบอะไรแต่เปิดให้ดูชุดที่ใส่ข้างในแทน
“โอ้วว แม่เจ้า” ผู้จัดการอุทานก่อนดึงเสื้อคลุมมาปิดไว้ตามเดิม

“ฉากต่อไปเป็นฉากระเบียงนะ มินกยูไปรดน้ำต้นไม้แล้ววอนอู…” ผู้กำกับอธิบายคิวอีกครั้ง
ก่อนซ้อม ทั้งสองผ่านฉากซ้อมไปได้ด้วยดีจนเริ่มถ่ายทำจริง วอนอูถอดเสื้อคลุมออก นั่น
ทำให้อีกคนหันไปมองแล้วก้มหน้าอมยิ้มอยู่คนเดียว

มินกยูอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงบ๊อกเซอร์ เช่นเดียวกับวอนอูแต่เพราะรูปร่างที่เล็ก
ขนาดของเสื้อผ้าของวอนอูก็เล็กลงไปด้วย เสื้อยืดสีขาวตัวบางเข้ารูป กับกางเกงบ๊อก
เซอร์ขาสั้นที่มีความยาวเลยปลายเสื้อยืดมาเพียงเล็กน้อย

การถ่ายทำจริงเริ่มต้นขึ้น วอนอูที่เพิ่งตื่นมาเห็นมินกยูกำลังรดน้ำต้นไม้อยู่ที่ระเบียง จึงนึก
อยากจะแกล้ง เดินเข้าไปจี้เอวจากด้านหลัง จนทำให้อีกคนตกใจหันมาสาดน้ำใส่ตัวเอง
จนเปียก มินกยูขอโทษแล้วคว้าผ้ามาซับให้ แต่เพราะเสื้อที่บางอยู่แล้วเปียกน้ำจึงแนบ
เนื้อจนเห็นผิวข้างใน จากผ้าที่เคลื่อนไปบนอกของอีกคน เขาปล่อยให้ผ้านั้นหลุดออก
จากมือ จากผ้าเปลี่ยนไปเป็นมือที่เคลื่อนไปบนอกนั้นแทน เป็นเวลาเดียวกันกับที่เขาเริ่ม
ขยับตัวไปใกล้อีกคนมากขึ้นทีละนิดๆ อีกคนถอยไปจนหลังแนบชิดกับผนัง เขาค่อยๆโน้ม
หน้าของตัวเองลงไปใกล้กับใบหน้าของอีกคนขึ้นเรื่อยๆ คนถูกกระทำมองจ้องเข้าไปใน
ดวงตาของเขาราวกับจะอ่านความคิด แต่แล้วเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทำให้
เขาผละออกจากอีกคนแล้วรีบไปรับสายนั้น

“คัททททท ดีมาก ธรรมชาติมาก โอเค เตรียมฉากต่อไปได้เลย”
พอสิ้นเสียงผู้กำกับ มินกยูรีบวิ่งไปหยิบเสื้อคลุมมาคลุมให้กับอีกคนก่อนที่ทีมงานจะเข้า
ถึงตัวเสียอีก

“ไอ้คนฉวยโอกาส” วอนอูพึมพำทันทีที่เข้ามาในห้องพักส่วนตัว ก่อนคว้าเสื้อผ้าจากราว
แขวนที่มีคนเตรียมไว้ให้ แล้วเดินเข้าห้องแต่งตัวไป
“อ้าว” เขาอุทานหลังจากที่เปลี่ยนเสื้อแล้วหันมาหยิบกางเกงแต่พบว่าแทนที่จะเป็น
กางเกงกลับเป็นเสื้ออีกตัว จึงโผล่หน้าออกมาจากม่านของห้องแต่งตัว
“พี่ครับ ช่วยหยิบกางเกงให้หน่อยสิครับ”
ไร้เสียงตอบรับ จึงลองเรียกอีกรอบเผื่อเจ้าตัวจะไม่ได้ยิน
“พี่ครับ อยู่หรือเปล่าครับ ช่วยหยิบกางเกง...” ยังไม่ทันจะพูดจบประโยค ก็มีมือหนายื่น
กางเกงมาให้ มือใหญ่ๆกับนิ้วอ้วนๆ ที่ดูอย่างไรก็ไม่ใช่มือของพี่ผู้จัดการ
“นาย...มาที่นี่ได้ยังไง” เขาถามเมื่อเห็นใบหน้าของอีกคน
“ก็เดินเข้ามา” เขาตอบพลางปลายตาไปทางประตู
“อย่ามายียวน”
“อ้าว ก็มันจริงนี่หรือนายจะให้ตอบว่าไง”
“พูดมาก เอากางเกงมานี่”
“อยากได้หรอ งั้นก็ออกมาเอาสิ” เขาพูดพลางถอยห่างออกมา
“นี่...เอามานะ พี่ครับ” ว่าพลางชะโงกหน้าออกมามองหาผู้จัดการ
“ไม่มีใครอยู่หรอก”
“ห้ะ”
“เขาไปพักกองกันหมดแล้ว”
“ละนายจะมาอยู่ที่นี่ทำไมล่ะ”
“นั่นสินะ” พูดพลางทำท่าจะเดินออกไปพร้อมกับกางเกงที่ยังคงถืออยู่ในมือ
“เดี๋ยว…” วอนอูเอ่ย
เขาหันกลับไปตามเสียงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“เอากางเกงมาก่อน”
“อยากได้หรอ ออกมาเอาสิ” พูดพลางยืนกอดอกหลังพิงประตู
“นี่นาย” น้ำเสียงปนหงุดหงิด
“จะอายทำไมล่ะทีเมื่อกี้ยังไม่เห็นอายเลย”
“อะไร...นายพูดเรื่องอะไร”
“ก็ป๊าววว” พูดพลางยักไหล่
“เลิกเล่นได้แล้วไม่ตลกนะ เอากางเกงมา”
เมื่อเห็นท่าทีที่เริ่มหงุดหงิดของอีกคนจึงเดินเข้าไปใกล้กับห้องแต่งตัวแล้วยื่นกางเกงใน
มือ แต่ก็ไม่วายแกล้งทำท่าจะดึงม่านเปิดออก
“เฮ้ยยย” เขาอุทานพลางรีบดึงม่านปิด ทำให้เสียหลักล้มลงไปบนพื้น
“โอ้ย/เฮ้ย”  ทั้งสองอุทานออกมาแทบจะพร้อมกัน
“เป็นอะไรหรือเปล่า” มินกยูถามพลางเดินเข้าไปในห้องแต่งตัว
“อย่าเข้ามา” วอนอูร้องห้ามแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ทันแล้ว เขาดึงชายเสื้อลงมาปิดหว่างขา
ของตัวเองแต่ก็ยังเผยให้เห็นต้นขาขาวอยู่ดี
“ลุกไหวไหม”
“ไม่เป็นไรน่า นายออกไปก่อนเถอะ” พูดพลางขมวดคิ้ว
“ทำไม อายหรอ ทีเมื่อกี้ยังมาจับของคนอื่นอยู่เลย”
“ใครจับ...อย่ามามั่ว”
“อ๋อ...หรือว่า...ยั่ว” พูดพลางไล้สายตาไปตามต้นขาขาวของอีกคน
“บ้านนายสิ ออกไปได้แล้ว พูดมาก”

นอกจากจะไม่ยอมออกไปจากห้องแต่งตัวที่เป็นเพียงม่านกั้นระหว่างมุมห้องกับบริเวณ
ภายนอก แล้วยังเดินเข้าไปใกล้พลางนั่งยอง
“จะได้หายกันไงครับ”
“อะไร... พูดอะไรของนาย”
“ก็ผลัดกันไง” ไม่พูดเปล่าแต่แบมือใ้ห้เป็นฝ่ามือชัดเจน
“อะไรของนายเนี่ย ไม่ได้จับเลยนะ”
“งั้นก็จับสิครับ อ่ะ จับเลย” พูดพลางขยับตัวเข้าไปใกล้
“เฮ้ย นายบ้าไปแล้วหรอ ใครจะไปอยากจับเล่า”
“ไม่อยาก แต่สายตาก็มองอยู่นี่ครับ”
“ใครมอง..” วอนอูขึ้นเสียงปฏิเสธพลางละสายตามาจ้องหน้าอีกคนแทน
“ก็เมื่อกี้ไง เห็นนะว่าจ้อง”
“ใครอยากมอง ก็นายเข้ามาใกล้ทำไมล่ะ”
“ชู่วววว อย่าเสียงดังสิครับ” มินกยูพูดพลางเอานิ้วชี้ขึ้นมาแตะริมฝีปากของตัวเอง
“วอนอู~~” เสียงผู้จัดการตะโกนเรียก
มินกยูทำท่าจะลุกขึ้นแต่วอนอูดึงแขนเอาไว้ แล้วพูดเสียงเบาว่าให้อีกคนอยู่ในนี้จนกว่า
ตัวเองจะออกไป ที่บอกแบบนั้นเพราะไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิด ดูเหมือนว่าอีกคนจะ
เข้าใจเพราะพยักหน้ารับรู้ แต่พอวอนอูปล่อยมือออกจากแขน เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออก
มาจากห้องแต่งตัวทันที
“นี่นาย…” วอนอูเรียกด้วยเสียงเบาแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เขากำหมัดแน่นให้หมอนี่มันกวน
ประสาทชะมัด อยากจะชกหน้ามัน
“อ้าว น้องมินกยู มาทำอะไรในนี้ค่ะ แล้วนี่เห็นวอนอูมั้ยคะ” พี่ผู้จัดการถามขึ้นเมื่อเห็นมิน
กยูเดินออกมา
“กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่น่ะครับ” พูดพลางจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เข้าที่
“อยู่ในนั้นหรอคะ” ถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ
“ครับ” พูดจบก็โค้งให้เล็กน้อยก่อนเอามือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบหลังคอของตัวเอง แล้วเดิน
ออกจากห้องไป
“มันไม่ได้มีอะไรแบบนั้นเลยนะ” วอนอูที่รีบร้อนออกมาหลังจากใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว
พูดด้วยหน้าตาตื่น
“อ่ะหรอ อืมๆ แต่จริงๆก็ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”
“ก็พี่ยิ้มนี่”
“ก็แค่ยิ้มมะ ก็คนมันอารมณ์ดี”
“พี่...มันไ่ม่มีอะไร ไม่ใช่อย่างที่พี่คิดเลยนะ”
“ไม่ได้คิดสักหน่อย ก็แค่พูดไปจามที่เห็น”
“พี่เห็นอะไร” ถามด้วยดวงตาที่โตขึ้น เพราะความอยากรู้
“ก็แค่...เสิ้อหลุดออกนอกกางเกง ผมยุ่ง แล้วก็ดูเขินๆ แค่นั้น”
“ไม่.มี.อะ.ไร” เขาพูดเน้นทีละคำ
“ไปเถอะๆ ไม่มีก็ไม่มี” แม้จะทำเป็นไม่สนใจแต่ในใจก็แอบกรี๊ดกับโมเมนท์เมื่อกี้ไป
เรียบร้อยแล้ว

วอนอูกำหมัดแน่น เขาล่ะแค้นไอ้คนลามกนั่นจริงๆ ที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดแบบนี้ ละขอ
ยืนกรานเลยว่าจะไม่ร่วมงานกับคนๆนี้อีก นี่จะเป็นงานแรกและงานสุดท้าย

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม