My Manager Chapter 0.0 (เรื่องคืนนั้น 1)
My Manager
Chapter 0.0
“ชนแก้ว!!” เสียงกลุ่มคนที่ดังขึ้นในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านชานเมือง ที่ถูกสั่งปิดร้านไว้เพื่อ
งานเลี้ยงฉลองให้กับการประสบความสำเร็จของการแสดงคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของวงตลอดระยะเวลา 3 วันที่ได้สิ้นสุดลง
“ขอบคุณทุกคนที่ทำงานหนักมาตลอดนะ มื้อนี้เต็มที่เลย” ท่านประธานกล่าวเปิดงาน
“ครับ/ค่า” เสียงตอบรับจากทุกคน
“ส่วนพวกนาย...ขอบคุณมากๆเลยนะสำหรับความอดทนและความมุ่งมั่น หลังจากวันนี้จะยกวันหยุดให้ 3 วัน ฟรีๆเลย” เขาหันไปกล่าวกับศิลปิน
“ห๊า ! จริงหรอครับ ขอบคุณนะครับ” เด็กๆศิลปินทั้ง 10 คนของวง several กล่าวขอบคุณพลางโค้งให้
“ตามสบายๆ” เขากล่าวและทำท่าบอกให้เด็กๆนั่งลง
วง several ประกอบด้วยสมาชิกชาย 10 คน ที่มีความสามารถและบุคลิกที่แตกต่าง หลากหลายตามชื่อวง ศิลปินน้องใหม่ที่เพิ่งเดบิวท์ได้ไม่ถึงปีแต่ก็ประสบความสำเร็จจนสามารถมีคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเองได้ในระยะเวลา 6 เดือนหลังการเดบิวท์
พวกเขาเป็นที่รู้จักมาก่อนการเดบิวท์จากรายการเรียลลิตี้ที่คัดเลือกเด็กหนุ่ม 10 คนจาก 20 คน ที่มีความสามารถและพัฒนาการจนมาสู่วง several ในปัจจุบัน อันที่จริงกำหนดการเดบิวท์ของพวกเขาคือต้นปีหน้า แต่เพราะกระแสตอบรับที่ดีเกินความคาดหมายทำให้ค่ายตัดสินใจเปิดตัวพวกเขาเร็วกว่ากำหนด แม้จะฉุกละหุกไปบ้างกับการเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย หรือแม้แต่ผู้จัดการของวงที่เพิ่งรับเข้ามาก่อนคอนเสิร์ตเพียงสองอาทิตย์ แทนทีมงานที่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการชั่วคราว แต่ทุกอย่างก็ผ่านมาได้ด้วยดี
“อ่า จริงสิ คุณวอนอูล่ะเป็นอย่างไรบ้าง เหนื่อยหน่อยนะในตอนต้นๆ แต่เดี๋ยวทุกอย่างก็จะเข้ารูปเข้ารอย”
“อ่า ครับ” เขาพูดตอบรับ
“พวกนายเองก็ดีกับพี่เขาให้มากๆล่ะ การดูแลคน 10 คนนี่มันงานใหญ่เอาการเลยนะ”
เขาหันไปพูดกับเด็กๆ
“คร้าบบบบ” พวกเขาตอบรับท่านประธาน
การเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป ท่านประธานขอตัวกลับไปหลังงานเริ่มสักพัก ต่อมาทีมงานบางส่วนก็ขอตัวกลับก่อนเช่นกัน ส่วนพวกที่เหลือยังคงดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน วอนอูยกข้อมือขึ้นเพื่อดูเวลา “เที่ยงคืนกว่าแล้ว” เขาเองก็อยากจะกลับไปพักผ่อนเต็มทีแต่พวกเด็กๆยังไม่ยอมกลับกันเลย จะมีก็แต่เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะที่ต้องกลับไปก่อนกับพี่ๆในวงอีกสองสามคน
“เฮ้อ เป็นเด็กนี่มันดีจริงๆเลยนะ” เขานึกพลางนั่งมองไปยังพวกเด็กๆที่คุยเล่นกันอยู่ที่โต๊ะถัดไป
“วอนอูนายจะกลับกี่โมงน่ะ” รุ่นพี่ทีมงานคนหนึ่งเดินเข้ามาถาม
“เอ่อ...ผมก็ยังไม่แน่ใจเลยครับ คงต้องรอส่งพวกเด็กๆก่อน” เขาตอบ
“เอ...เหลืออีกกี่คนเนี่ย” เขาพูดพลางยืดตัวขึ้นมองหาเด็กๆแล้วเริ่มนับจำนวน
“เหลือ 7 คนเลยหรอ งั้นเดี๋ยวช่วยพากลับก็แล้วกันนะ”
“ครับ ขอบคุณครับ” พูดพลางโค้งให้เล็กน้อย
“เฮ้ เด็กๆนี่เกือบจะตีหนึ่งแล้วนะ มีใครอยากกลับหอบ้าง” เขาตะโกน จากนั้นก็มีสมาชิกในวงอีกสองสามคนที่เดินมาบอกว่าอยากกลับแล้วแต่บางคนไม่ยอมให้พวกเขากลับ
“หืมม” วอนอูให้เด็กๆพาไปยังคนต้นเหตุ ก็พบหัวหน้าวงที่เริ่มจะเมาแล้วรั้งตัวของเพื่อนร่วมวงอีกสองคนเอาไว้ไม่ยอมให้ลุกหนีไปไหน
“เฮ้อ นายอีกแล้วสินะ” เขานึกในใจก่อนเดินเข้าไปหา
“จาปายไหนกานนน มา...ดื่มด้วยกานนนก่อนนน” เสียงพูดยานครางที่เกือบจะฟังไม่ได้ศัพท์
“นี่นายน่ะ ถ้าเค้าไม่อยากดื่มก็อย่าไปบังคับสิ” พูดพลางยกแขนที่พาดคอของเด็กๆคนอื่นอยู่ออก แล้วรีบๆทำมือบอกให้รีบเดินไป
“จาไปไหนนนน ดื่มมมมมมม” ลุกขึ้นพยายามคว้าแขนคนอื่นๆไว้แต่เพราะความเมาเลยทำให้เคลื่อนไหวได้ช้ากว่าปกติ เด็กๆคนอื่นที่ลุกออกจากที่นั่งได้ก็รีบโค้งบอกลาพี่ผู้จัดการก่อนกลับ
ปล่อยให้เขาจัดการกับคนตัวโตที่เมาแล้วงอแงเป็นเด็กๆ เขาจับให้อีกคนนั่งลงแล้วส่งแก้วน้ำส้มให้ดื่มแทน
“ม่ายยยยอาววววว อาววววโซจูมาาาาา” เขาโวยวายจนอีกคนรีบยกมือขึ้นปิดปากเอาไว้
“นี่นายเมาแล้วนะ” เขากระซิบ
“ใครมาวว ม่ายมี ม่ายมีใครมาววว” พอเอามืออีกคนออกได้ก็พูดตอบโต้ทันที
“กลับได้แล้วนะ”
“ไม่กลับ อาวมา อาวโซจูมา” เขาพูดพลางดิ้นไปมา จนคนพี่ต้องยอมให้เพราะกลัวจะไปพังข้าวของของร้านเขาซะก่อน
“ขวดสุดท้ายนะ ถ้าดื่มขวดนี้หมดแล้วนายต้องกลับนะ”
เขาพยักหน้าแทนคำตอบ
วอนอูนั่งรออีกคนอย่างใจเย็น แล้วเสียงข้อความในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาหยิบมันขึ้นมาเปิดอ่าน
“พี่วอนอู พวกเราถึงหออย่างปลอดภัยแล้วนะครับ ฝันดีนะครับ” ข้อความจากเด็กๆที่กลับไปแล้ว พร้อมรูปถ่ายของพวกเขาทั้ง 6 คนในชุดนอน
“ฝันดีเด็กๆ” เขาพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
“เด็กๆพวกนี้น่ารักจัง” เขานึกพลางเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง ก่อนหันไปมองเจ้าเด็กงอแงที่ไม่ยอมดื่มโซจูให้หมดสักที “ถ้านายน่ารักและว่าง่ายเหมือนคนอื่นๆก็คงจะดี” เขานึก
จู่ๆคนตัวโตก็ลุกพรวด ทำเอาเขาตกใจไม่น้อย
“จะไปไหน” เขาถามพลางลุกขึ้นยืนขวางอีกคนไว้
“ห้องน้ามม” ตอบพลางผลักให้พ้นทาง จนอีกคนเสียหลักล้มก้นกระแทกกับเบาะที่นั่ง พอตั้งตัวได้ก็รีบลุกแล้ววิ่งตามไป ยืนรอจนอีกคนทำธุระเรียบร้อยแล้วจึงเดินเข้าไปหา ทำท่าจะประคองแต่ก็ถูกอีกคนผลักจนหลังไปกระแทกกับผนัง
“กลับกันได้แล้ว นายเมามากแล้วนะ” เขาพูดพลางคว้าต้นแขนของอีกคนแต่ก็ถูกสะบัดออก
“มินกยู” เขาอีกชื่อของอีกคนก่อนเดินมาขวางทางข้างหน้าเอาไว้
คนตัวสูงจ้องหน้าเขา พยายามจะหาทางเดินออกไปจากทางแคบๆหน้าห้องน้ำ
“เราต้องกลับกันแล้วนะมินกยู” เขาพูดพลางชูนาฬิกาที่ข้อมือและชี้ให้อีกคนดูเวลา
เขาจิ๊ปากใส่ก่อนใช้มือทั้งสองข้างคว้าไหล่ของคนตรงหน้าแล้วผลักให้ชิดกำแพง แต่เพราะออกแรงมากเกินไปจึงทำให้หลังของอีกคนกระแทกกับผนังทางเดิน เขานิ่วหน้าด้วยความเจ็บและกำลังจะเรียกชื่อของอีกคนให้ได้สติ แต่เพราะใบหน้าของอีกคนที่ลดต่ำลงมาอยู่ระดับเดียวกัน ค่อยๆเลื่อนเข้ามาใกล้กับใบหน้าของเขามากขึ้นจนระยะห่างระหว่างใบหน้าของทั้งสองเหลือน้อยลงไปทุกที
“อ้าว วอนอูมาอยู่นี่เอง จะมาบอกว่าเด็กๆกลับไปกับทีมช่างแต่งหน้าหมดแล้วนะ”
“อ่า ครับ ขอบคุณครับ”
“อ้าว มินกยูนี่หน่า นึกว่ากลับไปแล้วซะอีก”
“ยังไม่ยอมกลับน่ะครับ”
“งั้นหรอ เดี๋ยวจัดการให้” เขาพูดพลางยักคิ้วให้แล้วกอดคอมินกยูก่อนพากลับไปนั่งที่โต๊ะ โดยมีวอนอูเดินตามไปติดๆ
“เอ้า ชน” ทีมงานกลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่ในร้านส่งขวดโซจูให้กับมินกยู
“ไม่เกินสองขวดหรอก” ทีมงานคนหนึ่งหันมากระซิบกับเขา
เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ส่งยิ้มเจื่อนกลับไปแทน
หลังจากโซจูขวดที่สองหมดเด็กตัวโตที่แผลงฤทธิ์อยู่เมื่อครู่ก็นั่งคอพับสิ้นฤทธิ์
“ทีนี้นายก็กลับได้แล้วล่ะวอนอู ฮ่าฮ่าฮ่า” ทีมงานคนที่พามินกยูมา หันมาพูดกับเขาพลางหัวเราะ
“มินกยู มินกยู” เขาพูดพลางสะกิดให้อีกคนรู้สึกตัว แต่อีกคนเพียงแค่ยกศรีษะขึ้นมาแล้วก็ฟุบลงไปอีก
“รถนายจอดอยู่หน้าร้านหรือเปล่า” ทีมงานอีกคนถามขึ้น
“อ่า ใช่ครับ”
“งั้นเดี๋ยวช่วยนะ” ทีมงานคนหนึ่งอาสามาช่วยเขาพาเด็กตัวโตที่เมาไม่ได้สติไปส่งที่รถให้เพราะดูท่าแล้วคุณผู้จัดการตัวน้อยคงจะลำบากแย่
“ขอบคุณนะครับ” วอนอูกล่าวและโค้งให้รุ่นพี่เล็กน้อย หลังจากที่ส่งคนเมาเข้าไปนั่งที่นั่งข้างคนขับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ขับกลับดีๆล่ะ” รุ่นพี่คนหนึ่งพูดพลางตบไหล่เบาๆ ก่อนเดินไปที่รถของตัวเอง
เขาโค้งให้เล็กน้อย ก่อนเดินไปที่ฝั่งคนขับ มองที่ไปคนข้างๆที่หลับไม่ได้สติแล้วก็จัดการคาดเข็มขัดนิรภัยให้ก่อนออกรถ
"ทำไมถึงได้ดื่มเยอะขนาดนี้ห้ะ" วอนอู พูดพลางกึ่งแบกกึ่งลากคนตัวสูงเข้ามาในห้องพัก เขากดรหัสที่หน้าประตูอย่างยากลำบาก เพราะต้องแบกคนสูง 187 เอาไว้
พอเข้าไปในห้องได้ก็ทิ้งอีกคนลงบนพื้นหน้าประตูทันที พลางพึมพำ "ตัวหนักจัง" แล้วก็จัดแจงถอดรองเท้าหนังสีดำขลับอย่างที่ชอบใส่ออกให้ ก่อนจะถอดรองเท้าของตัวเอง แล้วยืนขึ้นเท้าเอว ถอนหายใจเฮือกใหญ่มองอีกคนที่ยังคงหลับไม่ได้สติเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
เขาจำต้องแบกคนตัวสูงอีกครั้งเพื่อพามายังห้องนอน ค่อยๆวางอีกคนลงบนเตียงแล้วจัดท่านอนให้เข้าที่ ก่อนดึงผ้าห่มที่อยู่ปลายเตียงขึ้นมาห่มให้
เขายืนมองผลงานของตัวเองสักพักพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้งแต่ครั้งนี้เป็นความโล่งอกที่งานในวันนี้ของเขาเสร็จสิ้นสักที ก่อนหันหลังทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง แต่ก็ถูกมือใหญ่คว้าข้อมือเอาไว้
"หืมมม" ยังไม่ทันที่เขาจะหันกลับไปหาอีกคน แขนเรียวก็ถูกกระชากทำให้เสียหลักล้มลงบนตัวของอีกคนที่อยู่บนเตียง
"นายเมามากนะ" วอนอูพูดพลางยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งก่อนพยายามแกะมือที่จับข้อมือของเขาไว้แน่นแต่ยิ่งพยายามอีกคนยิ่งออกแรงบีบมากยิ่งขึ้น
"เจ็บ...ปล่อยนะมินกยู"
เมื่อไม่ยอมปล่อยจึงทำใจดีสู้เสือ ใช้มืออีกข้างตบลงเบาๆบนแผงอกของอีกคน เพื่อหวังจะกล่อมให้หลับ แต่อีกคนกลับลุกพรวดขึ้นมาแล้วผลักเขาลงไปบนเตียงก่อนจะคร่อมตัวของเขาเอาไว้
"มินกยู..." ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ ริมฝีปากของวอนอูก็ถูกปิดทับด้วยอวัยวะเดียวกัน
"อื้อ อื้อ" เขาดิ้นและพยายามหลบหลีก แต่ใบหน้าก็ถูกมือหนาของอีกคนจับไว้ ริมฝีปากที่เม้มเอาไว้ตอนนี้เผยออกเพราะแรงบีบ เปิดโอกาสให้ลิ้นหยาบได้ล่วงล้ำ แม้จะไม่เต็มใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวนี้แต่ก็ต้องยอมรับว่าจูบดูดดื่มที่อีกคนมอบให้นั้นชวนให้เขาเคลิบเคลิ้มจนเผลอส่งเสียงในลำคอออกมา
แม้ว่าจะพยายามขัดขืนแต่วอนอูก็แพ้แรงของอีกคนอยู่ดี
"ก็แค่จูบน่า เด็กนี่คงเมามาก เลยทำอะไรแผลงๆ" เขานึก เขาเองก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้วอยากพักผ่อนเต็มที่
เขายอมให้อีกคนทำตามใจชอบเพื่อหวังว่าจะทำให้สงบลงได้
แต่...มือที่เคยอยู่ตรงข้อมือของเขาตอนนี้ เปลี่ยนมาอยู่ตรงแผงอก ขยับลงมาที่หน้าท้อง
เขาสะดุ้งที่จู่ๆมือของอีกคนเลื่อนลงไปยังเป้ากางเกงของเขาอย่างรวดเร็วและลูบคลำไปมา
"อย่า...มินกยู" เสียงพูดสลับกับเสียงหอบหายใจ
เขาพูดพลางจับมือของอีกคนให้หยุด และออกแรงผลักให้อีกคนออกห่าง ก่อนลุกพรวดออกจากเตียงและตรงไปที่ประตูห้อง
แต่ยังไม่ทันที่จะก้าวพ้นประตู เอวบางก็ถูกรวบไว้ด้วยแขนแกร่ง อีกคนได้โอกาสสูดความหอมที่ซอกคอของเขาเข้าไปเต็มปอด
"เลิกเล่นได้แล้วนะ มินกยู" เขาทำเสียงดุใส่แล้วพยายามคลายแขนของอีกคนออก แล้วรีบก้าวออกไปจากห้อง แต่แขนข้างหนึ่งก็โดนกระชากอย่างแรง แล้วดึงเขากลับเข้าไปในห้องก่อนปิดประตูแล้วจับเหวี่ยงเขาไปติดกับผนังข้างประตู
“โอ๊ย เจ็บนะมินกยู” เขาร้องเมื่อแผ่นหลังกระแทกเข้ากับผนังห้องอย่างแรง
มินกยูใช้มือข้างซ้ายดันแผ่นอกของเขาไว้ให้ติดกับกำแพง แล้วใช้มืออีกข้างเชยข้างของอีกคนขึ้น ก่อนโน้มหน้าลงไปทาบทับริมฝีปากของอีกคน ที่เม้มปากแน่น จึงกัดเข้าที่ริมฝีปากล่างจนอีกคนเผยอปากออกเพราะความเจ็บให้ตัวเองได้ล่วงล้ำ
เป็นเวลานานแค่ไหนไม่รู้ที่เขาปล่อยให้อีกคนทำตามใจชอบอีกครั้ง พอรู้ตัวอีกทีตัวเองก็แทบจะขาดอากาศหายใจ จึงทุบเข้าที่อกของอีกคนรัวๆ เขาหอบหายใจทันทีที่อีกคนผละออก อีกคนก็เช่นกัน “จะทำอย่างไรกับนายดี” เขานึกหาวิธีที่จะทำให้อีกคนสร่างเมาหรือไม่ก็หลับๆไปซะ จะได้เลิกแผลงฤทธิ์สักที ตอนนี้เขาเองก็เพลียมากคงก็จะไม่มีแรงไปสู้กับอีกคนได้ แต่ก็ดูเหมือนว่าในตอนนี้สมองของเขามันไม่ทำงานเอาซะเลย
“อ๊าาา อื้อออ” พอรู้ตัวอีกทีเสื้อยืดตัวในก็ถูกเปิดขึ้นไปถึงอก หนำซ้ำยังมีลิ้นหยาบของอีกคนที่กำลังขบเม้นยอดอกของเขาอยู่อีก
“หยุดนะมินกยู” เขาพูดพลางให้กำปั้นทุบลงบนหลังของอีกคนรัว ดูเหมือนว่าจะได้ผลอีกคนหยุดการกระทำ
แต่จากนั้นไม่นาน อีกคนก็คว้าข้อมือของเขาแล้วลากเขาไปที่เตียงนอน
To Be Continued ...
My Manager Chapter 0.7 (เรื่องคืนนั้น 2) coming soon ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น